ลูกชายฆ่าแม่!! ทั้งที่รักมาก-สลดระงับอารมณ์ไม่อยู่ น้องสาวตกใจ-เผยพ่อก็เพิ่งตาย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ก.ค. พ.ต.ท.หญิง ชุติมา ยิ่งสังข์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุ ลูกทำร้ายร่างกายแม่เสียชีวิต ที่บ้าน แขวง-เขตทุ่งครุ กทม. หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ ผบก.น.8 พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผกก.สน.ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์เวร รพ.ศิริราช
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสูงสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ติดริมคลองราชพฤกษ์ ภายในห้องโถงชั้นล่าง พบศพนางตลับ ม่วงเผือก อายุ 77 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ที่อยู่ในอาการหมดสติ สภาพร่างกายถูกทำร้ายร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำบนใบหน้า และลำคอ ใกล้กันพบนายมานพ อายุ 50 ปี ผู้เป็นลูกนั่งเหม่อลอยอยู่ภายในบ้าน ตาขวาง ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายแม่ของตนเอง ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่ง สน.ทุ่งครุ พร้อมส่งศพไปที่รพ.ศิริราช
จากการสอบสวน นางอุไร อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงคนร้องตะโกนโวยวายจากบ้านหลังดังกล่าว จึงรีบไปดู พบนายมานพกำลังลงมือทำร้ายร่างกายผู้เป็นแม่ โดยการกระทืบอยู่หลายครั้ง ก่อนใช้มือบีบคอจนหมดสติไป จึงตะโกนให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเข้าช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทัน ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ นางสำเนียง อายุ 46 ปี ลูกสาวคนที่ 5 ของผู้ตาย ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุด้วยอาการตกใจ เปิดเผยว่า ผู้ตายมีลูกทั้งหมด 10 คน โดยผู้ต้องหาเป็นลูกคนที่ 3 โดยผู้ตายรักลูกคนนี้มาก เนื่องจากมีอาการทางประสาทเข้ารักษาตัวที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา มาเป็นเวลานาน และจะพักอาศัยบ้านหลังนี้กันเพียงสองคน เนื่องจากพ่อเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน
ก่อนหน้านี้ พี่ชายซึ่งมีอาการป่วย และเพิ่งออกมาจาก รพ.สมเด็จเจ้าพระยา ได้ 2 วัน และก่อนเกิดเหตุ เพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า นายมานพ พี่ชายมีอาการเดินเกร็ง แม่ตนจึงได้ถามลูกว่ากินยาหรือยัง แต่ลูกชายกลับบอกแม่ว่ากินยาไปแล้ว จากนั้นก็เข้าทำร้ายร่างกายแม่จนถึงแก่ความตาย
ด้าน พล.ต.ต.ฤชากร เปิดเผยว่า จากการพูดคุย ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ทำไปเพราะอาการเครียด จากการอาการทางประสาท รับรู้เรื่องทุกอย่าง แต่ระงับอารมณ์ไว้ไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้กินยาเป็นเวลานาน ส่วนตัวแล้วผู้ต้องหารักแม่มาก แล้วยังได้ฝากขอโทษกับสิ่งที่ทำไปอีกด้วย เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนต้องนำตัวนายมานพไปทำการตรวจร่างกาย ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งตรวจสอบประวัติการรักษาตัว หากผู้ต้องหามีอาการทางประสาทจริง ต้องมอบให้ทางแพทย์ทำการรักษาอย่างใกล้ชิดต่อไป
ที่มา : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1435725733