ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านดงไร่ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังจากมีการร่ำลือกันว่ามีดวงไฟประหลาดลอยอยู่บริเวณป่า และมีการนำภาพที่ถ่ายดวงไฟประหลาดสีส้ม ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า มาลงในเฟซบุ๊กชื่อ เพส ไทบ้านเชียง ดอทคอม พร้อมแชร์กันจนมีคนสนใจและเดินทางมาชม

ที่บ้านหลังหนึ่ง ในบ้านดงไร่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของนางฉวีวรรณ อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน ด้านหลังบ้านเป็นป่าและไร่อ้อย ซึ่งเป็นจุดที่พบว่ามีแสงประหลาดลอยขึ้นมา

นางฉวีวรรณ บอกว่า ดวงไฟที่ลอยบริเวณหลังบ้านจะปรากฏให้เห็นได้ในทุกวันพระ ช่วงเวลา 2 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่มกว่า ซึ่งจะเห็นได้ ครั้งละประมาณ 5-10 นาที ก็จะลอยหายไป ซึ่งดวงไฟจะมี ขนาดเท่ากับลูกมะพร้าว เป็นแสงสีแดงและสีเขียว

ซึ่งดวงไฟดังกล่าวนี้ นางฉวีวรรณเห็นมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ โดยเพิ่งจะมาสังเกตช่วงจริงจังเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันพระ ดวงไฟจะขึ้นมาแล้วลอยนิ่งอยู่บนยอดไม้ ห่างบ้านไปประมาณ 100-200 เมตร บางครั้งดวงไฟจะหยุดนิ่งคล้ายกับจ้องมองตน

จากนั้นก็เคลื่อนไปช้าๆแล้วหายไปทางวัดที่อยู่บริเวณใกล้เคียง จากนั้นตนจึงไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง และในคืนวันที่ 23 มิ.ย. ช่วงเวลา 20.00 น.

ที่ผ่านมามีชาวบ้านที่ทราบข่าวก็พากันมาดูดวงไฟ และได้ถ่ายรูป และนำไปดู ต่างประหลาดใจว่าดวงไฟที่เห็นคืออะไร บางคนก็ว่าเป็นดวงแก้ว ของเจ้าที่เจ้าทาง มาแสดงอภินิหารให้ชาวบ้านได้เห็น ซึ่งคนเฒ่าตนแก่ในหมู่บ้านเคยบอกว่าบริเวณป่าดังกล่าวเป็นพื้นที่ซึ่งจะมีของศักดิ์สิทธิอยู่ ซึ่งชาวบ้านที่มาดูก็ยกมือไหว้ขอแต่สิ่งดีๆและเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต

แต่ชาวบ้านบางคนที่ถ่ายภาพได้ ก็เอาภาพไปขยายดู กับพบว่าในดวงไฟสีเขียวเป็นใบหน้าของคนแต่ไม่มีร่างกาย ซึ่งก็พูดลือกันว่าเป็นผีกระสือ ส่วนชาวบ้านบางส่วนก็เดินทางเข้าไปดูในระยะใกล้ๆก็ไม่เห็นดวงไฟดังกล่าว

หลังจากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไปก็มีทั้งชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคลียงเดินทางมาดูกันจำนวนมาก บางคนก็ว่าเป็นไฟของเครื่องบิน ไฟจากแมลง และเป็นผีกระสือ สร้างความประหลาดใจกับชาวบ้านและผู้พบเห็น แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบเรื่องดวงไฟนี้ได้ว่าคืออะไร

                                                                    ที่มา  www.sanook.com