สำนักข่าวบีบีซี  เผยงานวิจัยจาก 3 มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ระบุโลกกำลังเข้าสู่ยุคสิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ครั้งที่ 6 และมนุษย์จะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดแรก ๆ ที่จะสูญพันธุ์ไปก่อนในครั้งนี้

                งานวิจัยด้านชีววิทยาดังกล่าวเป็นงานวิจัยร่วมของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และมหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ ถูกเปิดเผยลงในนิตยสาร Science Advances ระบุว่า หลังจากโลกเข้าสู่ยุคสิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ไปเมื่อ 65 ล้านปีก่อน จากอุกกาบาตพุ่งชนจนทำลายล้างไดโนเสาร์ทั้งโลก ตอนนี้โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตอีกระลอกแล้ว โดยเป็นรอบที่ 6 และในยุคสูญพันธุ์ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นนี้ สัตว์มีกระดูกสันหลังจะสูญพันธุ์ไปอย่างรวดเร็วกว่าปกติถึง 114 เท่า เร็วกว่าที่เคยเป็นมามากเลยทีเดียว

                สำหรับการคาดการณ์ดังกล่าว นักวิจัยได้ใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์โลกเกี่ยวกับการสูญพันธุ์ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง อันได้มาจากซากฟอสซิลต่าง ๆ ที่ค้นพบ

                จากข้อมูลที่ได้พบว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1900 สัตว์มีกระดูกสันหลังสูญพันธุ์ไปจากโลกแล้วกว่า 400 ชนิด และนั่นน่าจะเป็นอัตราการสูญพันธุ์ที่เกิดขึ้นปกติในช่วง 10,000 ปีที่ผ่านมา

                อย่างไรก็ดี นักวิจัยยังระบุด้วยว่า หากเทียบโลกในยุคที่ไม่มีและมีการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์แล้ว อัตราการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในช่วงที่มีกิจกรรมของมนุษย์นั้นสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด

                ขณะที่ทางด้านสหพันธ์นานาชาติด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้มีสัตว์อย่างน้อย 50 ชนิด ที่ใกล้สูญพันธุ์ในทุก ๆ ปี พร้อมระบุว่า หากเทียบสัดส่วนสิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงสูญพันธุ์ในอีกไม่ช้าไม่นานนี้ สายพันธุ์สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเสี่ยงสูญพันธุ์แล้วกว่า 41 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสายพันธุ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเสี่ยงสูญพันธุ์ 25 เปอร์เซ็นต์ และสัตว์ที่เสี่ยงสูญพันธุ์มากที่สุดในตอนนี้ คือเจ้าตัวลีเมอร์ ซึ่งถูกจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์

                ทั้งนี้ งานวิจัยชิ้นดังกล่าวนั้นแม้ว่าจะระบุข้อมูลที่น่าตกใจว่า สิ่งมีชีวิตจะสูญพันธุ์เร็วขึ้น 114 เท่า แต่ทางด้านสจ๊วร์ต พิมพ์ นักชีววิทยาและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต จากมหาวิทยาลัยดยุค ในนอร์ธ แคโรไลนา ได้เปิดเผยว่า 114 เท่า เป็นตัวเลขที่น้อยเกินไป จริง ๆ แล้วเขาคาดว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกจะสูญพันธุ์เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 1,000 เท่าเลยทีเดียว

ที่มา   http://hilight.kapook.com/