หนุ่มดับเพลิงพาแม่และน้าร้องปวีณา ถูกคนขับรถเมล์ร่วมบริการ อารมณ์บูดทำร้ายร่างกาย ขอความเป็นธรรม ไม่อยากให้เกิดกับคนผู้โดยสารคนอื่นอีก

วันนี้(23มิ.ย.58)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   เมื่อเวลา 14.00 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รังสิต-นครนายก คลอง 7 ปทุมธานี นายเอกรินทร์ ชูรอดภัย  พนักงานป้องกันชำนาญงาน สำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร พร้อมนางบุญมี ยอดชมภู อายุ 65 ปี มารดา และนางทองม้วน คำยนต์ อายุ 64 ปี น้า เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กรณีถูกพนักงานขับรถประจำทางร่วมบริการ สาย 123-8 ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ หลังไม่พอใจที่ผู้โดยสารให้จอดป้ายเพื่อลงจากรถ ขณะใช้ความเร็วแข่งกับรถสายเดียวกันที่วิ่งแซงกันมาเพื่อจะไปแย่งกันรับผู้โดยสาร และหลังเกิดเหตุไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบแต่อย่างใด

นางบุญมี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนเองกับน้องสาวได้ไปเยี่ยมญาติย่านหนองแขม ขณะเดินทางกลับบ้านพักย่านบางบัวทอง ได้พากันขึ้นรถเมล์สาย 123-8 ซึ่งวิ่งระหว่างสนามหลวง-ฟาร์มจระเข้สามพราน จากปากซอยเพชรเกษม 112 ระหว่างทางคนขับได้ขับรถด้วยความเร็ว วิ่งปาดซ้ายปาดขวา ทำให้ผู้โดยสารในรถต่างหวาดกลัว แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร ต่อมามีรถสายเดียวกันวิ่งไล่ตามหลังมาและพยายามจะแซงขึ้นหน้า  ขณะนั้นตนกับน้องสาวก็จะลงป้ายหน้าร้านปิ่นเกล้าหินอ่อน จึงกดกริ่งเพื่อให้คนขับจอดป้าย แต่เหมือนคนขับจะไม่ให้ความสนใจ ตนจึงบอกไปว่า "ขับรถแบบนี้คนแก่กลัวกันหมด" คนขับก็หันมามองหน้าก่อนจะจอดรถพร้อมตะโกนด่าว่า "ที่ขับรถเร็วเนี่ยก็เพราะต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย มึงกลัวตายด้วยเหรออีแก่" ขณะนั้นตนกับน้องสาวก็พากันลงจากรถ โดยคนขับคนดังกล่าวได้ปารองเท้าใส่ตนก่อนจะลงจากรถเดินปรี่เข้ามาจะเอารองเท้าตบหน้าน้องสาว พร้อมกับต่อยเข้าที่ใบหน้าหลายครั้งและกระโดดถีบเข้าที่กลางหน้าอกจนล้มลง จากนั้นก็หันมาต่อยตนเข้าที่ใบหน้าหลายครั้งเช่นกัน ระหว่างนั้นมีผู้โดยสารที่รอรถอยู่หลายคนแต่ก็ไม่มีใครกล้าช่วยเหลือ กระทั่งนายท่าที่คอยตรวจรถเมล์เข้าห้ามปราม คนขับรถเมล์จึงได้หันหลังกลับไปขึ้นรถก่อนจะขับหลบหนีไป โดยนายท่าได้จดรายละเอียดรถเมล์และจุดเกิดเหตุให้ตนพร้อมกับแนะนำให้เข้าแจ้งความที่สน.ตลิ่งชัน หลังแจ้งความตนกับน้องสาวได้ไปตรวจร่างกายที่รพ.ศิริราช ผลแพทย์ยืนยันว่าทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บเป็นรอยฟกช้ำตามใบหน้าจากการถูกต่อย

"ทุกวันนี้ตนเครียดมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไม่กล้าออกไปไหน เข็ดขยาดกับการขึ้นรถเมล์ ไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้ โหดร้ายมากที่ทำกับผู้หญิงแก่ได้ หลังเกิดเหตุ 2 วัน ทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้โทรติดต่อบุตรชายมาว่า กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับคนขับที่ก่อเหตุ 5,000 บาท และพักใบอนุญาตขับขี่ 30 วันไปแล้ว ส่วนในทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดให้ไปไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่น้องสาวตนความดันขึ้นสูงจึงได้ขอเลื่อนนัด” นางบุญมี กล่าว

ด้านนายเอกรินทร์ บุตรชายนางบุญมี กล่าวว่า เรื่องแบบนี้เชื่อว่าหากเกิดกับพ่อ แม่ พี่น้องใครก็คงรับไม่ได้ แม่และน้าของตนไม่ได้ต้องการเรียกร้องเงินทอง เพียงแค่อยากได้ยินคำว่า ขอโทษ จากคนที่ก่อเหตุและหน่วยงานที่รับผิดชอบ และไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนอื่น ตนอยากสะท้อนให้เห็นถึงภัยสังคม คนที่มีหน้าที่ทำงานบริการควรจะตะหนักในการให้บริการให้ดี นึกถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก และหน่วยงานที่กำกับดูแลควรมีมาตราการจัดการผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง ไม่ใช่ยัดเยียดการบริการให้กับประชาชน

ภายหลังรับเรื่องนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯได้ประสานไปยังพ.ต.อ.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผกก.สน.ตลิ่งชัน เพื่อประสานทางด้านคดีและขอให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย โดยนัดให้ผู้เสียหายเข้าพบเพื่อให้ข้อมูลในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ เวลา 11.00 น.

ที่มา  http://social.tnews.co.th/content/148963/