ดช.13เดินตามหยดเลือด ช็อก!!เจอศพพ่อถูกใบหินเจียรปักอกทะลุ สลดร่องรอยเดินหาคนช่วย
วันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.ประชากร พรมดวง ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพชายนอนจมกองเลือดเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณใต้ต้นมะพร้าว ห่างจากบ้านเลขที่ 6 บ้านสำโรง ม.9 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองนครราชสีมา ประมาณ 50 เมตร หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.อัทธชนม์ ช่วงงาม ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการพิสูจน์หลักฐาน เขต 3 , แพทย์เวรชันสูตรโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ฮุก 31 รุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุ
พบศพนายจำรัส สติใหม่ อายุ 43 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพนอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นมะพร้าว ตรวจสอบตามร่างกาย พบมีร่องรอยถูกของแข็งมีคม ปักเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายอย่างแรง จนทะลุ รวมถึงมีร่องรอยถูกของแข็งมีคมบาดเข้าที่บริเวณเส้นเลือดใหญ่ข้อมือด้านซ้าย จนเป็นแผลลึก และยังพบร่องรอยหยดเลือดไหลเป็นทาง เข้าไปภายในบ้าน
เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบบริเวณหน้าบ้านของผู้ตาย กำลังซ่อมรถจักรยานยนต์แบบมีพ่วงด้านข้าง โดยข้างๆ มีการใช้เครื่องตัดเหล็ก เสียบปลั๊กไฟวางทิ้งไว้ โดยพบใบหินเจียร มีสภาพแตกกระจาย และมีรอยหยดเลือดกระจายเต็มพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม เด็กชาย อายุ 13 ปี ลูกชายของ นายจำรัส ผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรกให้การว่า นายจำรัส บิดา มีอาชีพเป็นช่างทาสี แต่วันนี้ ไม่ได้ไปทำงาน เนื่องจากรถจักรยานยนต์แบบพ่วงของบิดาเสีย ช่วงบ่ายที่ผ่านมา บิดาจึงอยู่บ้านเพียงลำพัง เพื่อซ่อมรถจักรยานยนต์แบบพ่วง ส่วนตนออกไปหาเพื่อน จนกระทั่งช่วงค่ำ ตนกลับมาบ้าน แต่ไม่พบบิดา จึงพยายามเดินตามหา และพบรอยหยดเลือดไหลเป็นทาง จึงเดินตามมาพบศพบิดา นอนเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นมะพร้าวหน้าบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.อัทธชนม์ กล่าวภายหลังตรวจสภาพที่เกิดเหตุอย่างละเอียดว่า สาเหตุของการเสียชีวิตของ นายจำรัส น่าจะเกิดจากขณะใช้ใบหินเจียร ตัดสังกะสี เพื่อนำมาทำเป็นที่นั่งของรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง แต่ใบหินเจีย เกิดแตกกระเด็น ทำให้ใบหินเจียร กระเด็นปักเข้าที่หน้าอกอย่างแรง แต่นายจำรัส ยังไม่เสียชีวิต พยายามเดินออกมาจากบ้าน เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน
แต่เนื่องจากระยะทางห่างกันเกือบ 100 เมตร ทำให้ นายจำรัส ซึ่งเสียเลือดมาก ทนพิษบาดแผลไม่ไหว จนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นได้นำศพให้แพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบศพให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป